วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Casio G-Shock Crazy Color AW-582SC-1ADR

ภาษาฝรั่งใช้คำว่า Crazy color ถ้าแปลเป็นภาษาไทยแบบเก๋ๆ น่าจะใช้คำว่า “สีเจ็บๆ แบบสุดขั้ว” น่าจะได้นะครับ
นาฬิกา Casio G-Shock AW-582SC-1ADR ออกแบบโดยใช้นาฬิกา รุ่น AW-582 ซึ่งเป็นนาฬิกาสองระบบ คือ Digital และ Analogue ในเรือนเดียวกัน

แต่สีที่ใช้สร้างสรรค์นั้น ใช้ 3 สี ซึ่ง ต่างกันโดยสิ้นเชิง นั่นคือ สีดำ ซึ่งเป็นสีของตัวเรือนและสาย สีเขียวแอ็บเปิ้ง ที่ใช้เป็นสีหน้าปัด และตัวอักษรตรงขอบหน้าปัดด้านข้าง และสีชมพู เป็นตัวอักษร หน้าปัดด้านบน ล่าง เข็มนาฬิกา และปุ่มด้านข้าง


G-Shock เรือนนี้ ตัวเรือนเป็นทรงกลม คล้ายๆ ยางรถยนต์ครับ ส่วนปุ่มด้านข้างหลบในตัวเรือน


สายเคลือบมัน ทำให้ไม่เปื้อนง่าย


ตัวล็อกแบบกลัดรูเดียว


ดูโดยรวมแล้ว สำหรับ นาฬิกา Casio G-Shock Crazy Color AW-582SC-1ADR  แม้จะใช้ 3 สีซึ่ง ต่างกัน และดูฉูดฉาดโดยสิ้นเชิงรวมกัน แต่ก็เหมาะกับ การแต่งตัวสไตล์ Casual หรือ แนว Street ware ซึ่งสร้างความโดดเด่นให้กับการแต่งตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถ Mix & Match เสื้อผ้า หรือเครื่องแต่งกาย สีแรงๆ ได้เป็นอย่างดี


G-Shock หน้าปัดโทนสี เขียวแอ็ปเปิ้ล ดูสดใส มีสีสัน เข็มสั้นบอกชั่วโมง สีชมดูโดดเด่น


ปุ่มหลบในตัวเรือน สีชมพู สดใส


ปุ่มอีกด้านก็สีชมพู



รูปฝาหลังครับ








CASIO G-SHOCK GA-110F-2DR ( GA-110F-2JR ) HYPER COLOR LIMITED EDITION 2010








วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Casio G-Shock Gulfman G-9100-2DR

นาฬิกา Casio G-Shock Gulfman G-9100-2DR ซึ่งเป็นสีน้ำเงินเข้ม




G-9100-2DR นี้เป็นสีน้ำเงินค่อนข้างเข้ม สีนี้เข้ากับ Concept Gulfman เลยครับ ซึ่งเป็นสีน้ำเงิน น้ำทะเลครับ
การออกแบบโทนสีใช้สีน้ำเงินเข้มทั้งเรือนและสาย แซมด้วยขอบหน้าปัดด้านข้างที่เป็นสีดำส่วนเดียว  ตัวอักษร G-Shock และ G รวมทั้งคำที่บอกฟังก์ชั่นต่างๆ บนนาฬิกา เป็นสีขาว Contrast กับสีน้ำเงิน ทำให้ตัวอักษร ดูโดดเด่นขึ้นมาทันที



ส่วนต่อระหว่างตัวเรือนและสาย ยึดติดด้วยสกรูทั้งสองข้าง


สายส่วนที่ใกล้ตัวเรือน เป็นส่วนหยักร่อง เพิ่มมิติให้กับสายนาฬิกา


รูกลัดสายนาฬิกาเป็นแบบรูเดียว (Single Hole) ซึ่งต่างจาก G-Shock  Mudman และ G-Shock Riseman ซึ่งรูกลัดสายเป็นแบบสองรู (Double Hole)


ถ่ายมุมซ้าย ให้เห็นทั้งเรือนกันแบบจะๆ


รูปถ่ายหน้าตรงครับ


ลองดูมุมซ้ายบ้างครับ


ดีไซน์การออกแบบตัวเรือน ดูมีมิติมาก ไม่เรียบเกินไป จนดูน่าเบื่อครับ



หน้าปัดส่วนกลางแสดง น้ำขึ้นน้ำลง และ ข้างขึ้นข้างแรมครับ สามารถดูทั้งสองฟังก์ชั่นนี้ ณ วันและเวลาปัจจุบัน หรือ เวลาในอนาคต ก็ได้ครับ


ลองเอามาเทียบขนาดกับฝ่ามือดูครับ  ถือว่าใหญ่พอสมควร เหมาะกับสุภาพบุรุษจริงๆ


นาฬิกา Casio G-Shock G-9100-2DR ฝาหลังทำจาก Titanium และสลัก Made in Thailand อีกเช่นเคย เหมือนกับ G-9100-1DR สีดำครับ (ก็มันรุ่นเดียวกันนี่หน่า)




G-9100-2DR ปุ่มด้านข้างหลบอยู่ในตัวเรือน ทำด้วยสีดำครับ จะเป็นคนละสีกับตัวเรือนและสาย ในขณะที่ปุ่มด้านข้างของ G-9100-1DR เป็นสีดำ
นี่ครับ




นี่ครับ ปุ่มด้านข้างของ G-9100-1DR เป็นสีดำ โทนเดียวกับตัวเรือนและสาย


G-9100-2DR  Module no. คือ 3088 เหมือนกับ G-9100-1DR จะสังเกตว่า แม้ว่า สีสันของนาฬิกาจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าเป็นรุ่นเดียวกันละก็  Module no. จะเหมือนกันครับ
Module no. ในคู่มือ จะตรงกับ Module no. ที่สลักตรงฝาหลังนาฬิกาครับ




Packaging เป็นกล่องกระดาษ มีฝาปิดและฝาครอบอีกชั้นนึง








Casio G-Shock Mudman G-9000R-4DR

นาฬิกา Casio G-Shock Mudman G-9000R-4DR





Casio G-Shock G-9000R-4DR เป็นสีที่ฝรั่งเค้าเรียกกันว่า “Rescued Color” หรือสีของนักกู้ภัย ที่เป็นสีส้มนั่นเอง แต่เราเรียกกันชินๆว่า สีส้ม (Orange)




ตัวเรือนจะเป็นสีดำ แซมด้วย ตัวอักษร G-Shock และ Shock Resist สีส้ม โทนเดียวกัน ซึ่งต่างจาก Gulfman และ Riseman ซึ่ง ทั้งตัวเรือนและสายเป็นสีส้มทั้งหมด มีแซมสีดำเป็นบางส่วน


สังเกตตรง ขอบหน้าปัด กันด้วยสีส้ม เมทาลิก


สีสีโทนส้ม นักกู้ภัย ในญี่ปุ่น จัดเป็นพวกนักกู้ภัยชนิดผจญเพลิง





หน้าจอแสดงเวลา ออกโทนสีส้มอ่อนๆ



ปุ่มด้านข้างสีดำสนิท เข้ากับตัวเรือน



รูปฝาหลัง

Casio G-Shock Riseman G-9200-1DR


หลายท่านชอบการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมื่อถึงวันหยุดยาวที่ไร เป็นต้องออกต่างจังหวัด ไปเที่ยวภูเขา น้ำตก ชมวิวทิวทัศน์ หรือไปถ่ายรูปวิวต่างๆ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจและผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน
สำหรับท่านที่ชอบท่องเที่ยว ภูเขา น้ำตก ล่ะก็ ขอแนะนำ นาฬิกา Casio G-Shock Riseman G-9200-1DR ซึ่ง นาฬิกา CasioG-Shock Riseman G-9200-1DR นี้ มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะกับการท่องเที่ยวประเภทดังกล่าวอย่างมากครับ




นอกจากตัวเรือนที่มีขนาดใหญ่ เหมาะกับสุภาพบุรุษแล้ว G-9200-1DR ยังจัดอยู่ใน หนึ่งในสามสุดยอด Master of G ที่มีความทนทานสูง ผ่านบททดสอบอันหฤโหดในเรื่องความอึด อาทิ เช่น ทดสอบความทนทานเนื่องจากการตกกระแทกจากที่สูง (Shock Resist) การกระแทกโดยลูกสูบ (Piston Test) เหมือนกับ นาฬิกา Casio G-Shock Mudman G-9000 และ Casio G-Shock Gulfman G-9100 ครับ




ความแตกต่างต่างนอกจาก รุปลักษณ์ภายนอกแล้ว สิ่งที่สำคัญคือ ความแตกต่างเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งาน เช่น Gulfman คอนเซ็ปของฟังก์ชั่นคือ การดูเวลาน้ำขึ้นน้ำลง และข้อมูลดวงจันทร์ เพื่อประโยชน์ในการวางแผนการท่องเที่ยวทางน้ำ เช่น การล่องเรือ ตกปลา
แต่ นาฬิกา Casio G-Shock Riseman G-9200-1DR นี้ Riseman คอนเซ็ปของฟังก์ชั่นคือ การวัดความสูง และการพยากรณ์ลมฟ้าอากาศ อุณหภูมิ เพื่อประโยชน์ในการท่องเที่ยว ปีนเขา เดินป่าครับ




นาฬิกา Casio G-Shock Riseman G-9200-1DR มีฟังก์ชั่นที่เป็นจุดเด่น หรือ ที่เรียกว่าเป็นจุดขายของรุ่นนี้อยู่ สองโหมดครับ คือ Altimeter mode และ Barometer / Thermometer Mode ซึ่งต่างจากฟังก์ชั่นทั่วไปของนาฬิกา Casio รุ่นอื่นๆ




ซึ่ง Altimeter Mode นี้ เป็นโหมดวัดระดับความสูง โดย เซ็นเซอร์ด้านซ้ายมือของนาฬิกา เป็นเซ็นเซอร์ที่ไว้จับค่าความกดอากาศ ในระดับที่ท่านยืนอยู่ จากนั้นก็แปลงคำนวณออกมาเป็นระดับความสูง โดยใช้มาตรฐานของ ISA (Internation Standard Atmosphere) ซึ่งพูดกันง่ายๆคือ แปลงจากค่าความกดอากศในปัจจุบันให้เป็นระดับความสูงโดยการคำนวณของวงจรในนาฬิกา




ผุ้ใช้สามารถวัดความสูงโดยใช้ค่าเริ่มต้นของนาฬิกา (Preset Value) หรือ ถ้าจะให้แม่นยำมากขึ้นโดยการกำหนดความสูงอ้างอิงเอง (Specified Referece Attitude) เมื่อกำหนดความสูงเองในกรณีปีนเขา ยังสามารถมาร์ก ความสูงระหว่างจุดสองจุด เพื่อการคำนวณและวัดค่าที่ถูกต้องแม่นยำยิ้งขึ้น
อีกโหมดนึงที่สำคัญคือ Barometer / Thermometer Mode ซึ่งเป็นโหมดที่วัดความกดอากาศ สามารถแสดงเป็นกราฟผ่านช่องวงกลมสีแดง (Barometric Pressure Graph) หรือ แสดงโดยเครื่องหมายแสดงการเปลี่ยนแปลงค่า (Barometric Pressure Change Indicator) ซึ่งแสดงโดยสัญลักษณ์ และสัญลักษณ์นี้จะแทนด้วยค่าหน่วยวัดที่กำหนดในนาฬิกา
ในโหมดเดียวกัน ก็มี Thermometer Mode ซึ่งจับค่าอุณหภูมิ โดยตัวเซ็นเซอร์ทางด้านซ้ายของนาฬิกา




นี่คือ ตัวเซ็นเซอร์ (Sensor) ของนาฬิกา Casio G-Shock G-9200-1DR ที่ไว้วัดค่าความกดอากาศ เพื่อเปลี่ยนเป็นความสูง และอุณหภูมิในปัจจุบันเพื่อเก็บค่าไว้ในหน่วยความจำของนาฬิกา
ซึ่งในโหมด Barometer นี้ จะสามารถพยากรณ์อากาศได้ว่า อากาศจะเป็นอย่างไร จากกราฟ ในช่องสีแดง ซึ่งจากกราฟสามารถพยากรณ์ สภาพอากาศอันใกล้จะถึงได้ว่า อากาศจะดีหรือเลวร้ายอย่างไร มากน้อยแค่ไหน




ด้านขวามือของ นาฬิกา Casio G-Shock Riseman G-9200-1DR  จะมีปุ่มแดงๆ อยู่ ซึ่งเป็นปุ่ม Short Cut เข้าสู่ Altimeter mode ได้ทันที โดยไม่ต้องกดปุ่ม ซ้ายล่างเพื่อไล่ฟังก์ชั่นไปเรื่อยๆ นับว่าสะดวกและประหยัดเวลาได้มาก




หน้าปัด แสดง เวลา วันและวันที่ เดือน ปี ไว้อย่างครบครับ นอกจากนั้น ยังมีปุ่มเปิดไฟ อยู่ด้านหน้า สลักตัว G ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ G-Shock



รูปถ่ายสายด้านข้างของนาฬิกา Casio G-Shock Riseman G-9200-1DR




รูปถ่ายสายด้านหลัง ของ G-Shock Riseman G-9200-1DR  รูกลัดสายเป็นแบบคู่ (Double Hole)




เทียบกับฝ่ามือของผู้ชายแล้ว ก็ใหญ่พอสมควรครับ เหมาะกับสุภาพบุรุษ ชอบแนวลุยๆมากๆ




โอ๊ะ ฝาหลังถูกสติ๊กเกอร์ปิดทับครับ  งั้นดูรูปต่อไปเลยดีกว่า




ฝาหลัง เป็นรูปมังกรครับ G-9200-1DR Module number 3148 ฝาหลังทำจากสแตนเลสสตีล เหมือนรุ่น Casio G-Shock Mudman G-9000 ในขณะที่ Casio G-Shock Gulfman ฝาหลังจะทำจากไทเทเนียม (Titanium) และเป็น Made in Thailand เหมือน G-Shock รุ่นอื่นๆครับ




Packaging จะต่างจาก นาฬิกา Casio G-Shock ทั่วไปเพราะถือว่าเป็นรุ่นสูง เค้าเลยทำกล่องมาดุดีกว่า เป็นกระป๋องเหล็กอย่างที่เห็นครับ นี่คือ Package เต็มรูปแบบ มีกล่องและก็กล่องกระดาษใส่ให้อีกที
จบแล้วครับ คราวหน้าจะนำ นาฬิกา Casio G-Shock Riseman G-9200 สีอื่นๆมาให้ดูกันครับ